โรงเรียนบ้านโพหวาย

หมู่ที่  5  บ้านโพหวาย ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
 จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
โทร. 086-9578241

ปลูกกะเพรา เคล็ดลับง่ายๆในการปลูกกะเพรา ปลูกง่าย โตเร็ว

กะเพรา

ปลูกกะเพรา โดยทั่วไปแล้วกะเพรา เป็นสมุนไพรที่มีความหอมและรสชาติเด่น กะเพรามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ocimum basilicum และอยู่ในวงศ์ Lamiaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับสมุนไพรหลายชนิดอื่นๆ เช่น โหระพา กะเพรามีรสชาติที่เข้มข้นและหอมหวานพอประมาณ กลิ่นของกะเพรานั้นเป็นเอกลักษณ์และมีลักษณะอ่อนๆ แต่ออกความหอมหวาน

วิธีเพาะปลูกกะเพรา

ปลูกกะเพรา

  • เตรียมดิน: ดินที่ใช้ปลูกกะเพราควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้กับดิน
  • หว่านเมล็ดกะเพรา: ลงในดินที่เตรียมไว้ เมล็ดกะเพราจะงอกภายใน 7-10 วัน
  • รดน้ำกะเพรา: กะเพราเป็นพืชที่ชอบน้ำ ควรรดน้ำให้กะเพราอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละครั้ง
  • ใส่ปุ๋ยกะเพรา: ทุกๆ 2-3 สัปดาห์ ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15
  • กำจัดวัชพืช: วัชพืชจะแย่งน้ำและสารอาหารจากกะเพรา ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ
  • เก็บเกี่ยวกะเพรา: กะเพราสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้นสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร ตัดใบกะเพรามารับประทานสดหรือนำไปประกอบอาหารได้

สรรพคุณทางยาของกะเพรา

กะเพราเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามากมาย ดังนี้

กะเพรา

  • แก้ท้องอืด แก้จุกเสียด ขับลม
  • แก้หวัด แก้ไอ
  • ขับปัสสาวะ ขับระดู
  • บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ
  • บำรุงผิวพรรณ
  • ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง

กะเพราสามารถรับประทานสด นำไปประกอบอาหาร หรือทำเป็นยาได้ กะเพราสดนิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น ผัดกะเพรา แกงกะเพรา แกงป่า ฯลฯ กะเพราทำเป็นยาได้หลายวิธี เช่น ต้มน้ำดื่ม ชงเป็นชา กินสด ฯลฯ

ประโยชน์ต่อสุขภาพของกะเพรา

กะเพรามีความหลากหลายของสรรพคุณทางสุขภาพที่มีค่าในการส่งเสริมความเป็นสุขและการดูแลสุขภาพ นี่คือประโยชน์ที่ได้รับจากการบริโภคกะเพรา

  • ต้านอักเสบและลดอาการอักเสบ: กะเพรามีสารอันมีคุณสมบัติต้านอักเสบ เช่น อีวจีนอล (eugenol) ซึ่งอาจช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายและสนับสนุนระบบภายในของร่างกายให้ทำงานอย่างเหมาะสม
  • สนับสนุนระบบภายในร่างกาย: กะเพราอาจช่วยลดการกัดกร่อนในระบบทางเดินอาหารและช่วยส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหาร
  • เสริมระบบภูมิคุ้มกัน: สารต่างๆ ในกะเพราอาจช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการติดเชื้อและการระบาดของโรค
  • ช่วยลดความเครียด: กะเพรามีคุณสมบัติที่อาจช่วยผ่อนคลายระบบประสาท ช่วยลดความเครียดและภาวะเครียด
  • เป็นแหล่งวิตามินและเครื่องหมายทางสุขภาพ: กะเพรามีวิตามินและเครื่องหมายทางสุขภาพต่างๆ เช่น วิตามิน A และ K ที่มีบทบาทสำคัญในสุขภาพทั่วไปของร่างกาย
  • รักษาอาการหวัดและไข้: กะเพรามีคุณสมบัติในการรักษาอาการไข้และอาการหวัด มีคุณสมบัติต้านเชื้อและช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนได้เร็วขึ้น
  • ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด: มีการศึกษาบางรายงานว่า กะเพราอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และมีฤทธิ์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในกรณีเบาหวาน
  • สร้างร่างกายและระบบประสาทที่แข็งแรง: กะเพรามีสารต่างๆ ที่อาจช่วยในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ทำให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ดียิ่งขึ้น
  • มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวดเมื่อยและปวดบวม: การนวดน้ำมันกะเพราบนบริเวณส่วนที่ปวดอาจช่วยบรรเทาอาการปวดและบวม

การใช้กะเพราในการทำอาหาร

การใช้กะเพราในการทำอาหารเป็นสิ่งที่มีความหลากหลายและสามารถนำมาใช้ในเมนูต่างๆ ได้หลากหลายรสชาติและรสนิยม นี่คือวิธีการใช้กะเพราในการทำอาหาร

การใช้กะเพราในการทำอาหาร

  • ผัดกะเพรา: เป็นเมนูไทยที่มีนัยสำคัญในการนำกะเพรามาผัดรวมกับเนื้อสัตว์หรือแม้แต่เนื้อปลา และเครื่องปรุงรสเพิ่มเติม เช่น กระเทียม พริก น้ำมัน เป็นต้น
  • ซอสกะเพรา: สามารถทำซอสจากกะเพราในรูปแบบของซอสเพสโต โดยผสมกับกระเทียม ถั่วลิสง พาร์มิจาโน เนย และเนื้ออัตราส่วนต่างๆ ได้
  • สลัดกะเพราและมะเขือเทศ: กะเพราสามารถใช้เป็นส่วนผสมในสลัด โดยผสมกับมะเขือเทศสีสันสดใหม่และซอสสลัด
  • น้ำสลัดกะเพรา: สามารถใช้ในการทำน้ำสลัดโดยใช้กะเพราแบบสดๆ ผสมกับเครื่องปรุงรสเช่น น้ำมะนาว น้ำตาล และน้ำปลา
  • ซุปกะเพรา: สามารถใช้กะเพราในการทำซุป เช่น ซุปมิเนสที่ใช้กะเพราเป็นส่วนผสม
  • หน้าปลากะเพรา: ใช้กะเพราในการทำหน้าปลาหรือเครื่องปรุงรสสำหรับอาหารที่ทำเป็นซอสหรือผัดเพื่อเพิ่มรสชาติ
  • ผัดขี้เมากะเพรา: อาหารไทยอีกเมนูที่นำกะเพรามาใช้ในการผัดกับเนื้อหรือกุ้ง พร้อมกับเครื่องปรุงรสอื่นๆ
  • น้ำชากะเพรา: ใช้ในการชงน้ำชากะเพราให้ได้น้ำชาหอมโดยเติมใบกะเพราลงในน้ำร้อน และสามารถเพิ่มน้ำผึ้งหรือน้ำตาลตามรสชาติ
  • ขนมปังหรือพายผัดกะเพรา: ใส่ใบกะเพราในขนมปังหรือพายและผัดในกระทะก่อนที่จะเตรียมขนม
  • เครื่องเทศ: ใบกะเพราสามารถใช้เป็นเครื่องเทศในอาหารต่างๆ เช่น ใส่ลงในพิซซ่า สูตรพาย และอื่นๆ

กะเพรา (Ocimum basilicum) เป็นพืชล้มลุก สูง 30-60 เซนติเมตร มีใบสีเขียว รสเผ็ดร้อน นิยมนำมาประกอบอาหารไทย เช่น ผัดกะเพรา แกงกะเพรา แกงป่า ฯลฯ กะเพรามีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น แก้ท้องอืด แก้จุกเสียด ขับลม แก้หวัด ฯลฯ กะเพราเป็นผักที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกะเพรา

Q1 : กะเพราคืออะไร?

A1 : กะเพรา (Ocimum basilicum) เป็นพืชล้มลุก สูง 30-60 เซนติเมตร มีใบสีเขียว รสเผ็ดร้อน นิยมนำมาประกอบอาหารไทย เช่น ผัดกะเพรา แกงกะเพรา แกงป่า ฯลฯ กะเพรามีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น แก้ท้องอืด แก้จุกเสียด ขับลม แก้หวัด ฯลฯ กะเพราเป็นผักที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

Q2 : กะเพรามีกี่ชนิด?

A2 : กะเพรามีหลากหลายชนิด ได้แก่ กะเพราแดง กะเพราขาว กะเพราหวาน กะเพราไทย ฯลฯ แต่ละชนิดมีรสชาติและสรรพคุณที่แตกต่างกัน กะเพราแดงมีรสเผ็ดร้อนมากที่สุด กะเพราขาวมีรสเผ็ดร้อนน้อยที่สุด กะเพราหวานมีรสหวาน กะเพราไทยมีรสเผ็ดร้อนและหวานผสมกัน

Q3 : กะเพรามีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?

A3 : กะเพรามีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น แก้ท้องอืด แก้จุกเสียด ขับลม แก้หวัด แก้ไอ ขับปัสสาวะ ขับระดู บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ บำรุงผิวพรรณ ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง ฯลฯ

Q4 : กะเพรามีโทษหรือไม่?

A4 : กะเพรามีโทษเล็กน้อยสำหรับผู้ที่แพ้กะเพรา ผู้ที่รับประทานกะเพรามากเกินไปอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ปวดศีรษะ ฯลฯ

Q5 : กะเพราควรรับประทานอย่างไร?

A5 : กะเพราสามารถรับประทานสด นำไปประกอบอาหาร หรือทำเป็นยาได้ กะเพราสดนิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น ผัดกะเพรา แกงกะเพรา แกงป่า ฯลฯ กะเพราทำเป็นยาได้หลายวิธี เช่น ต้มน้ำดื่ม ชงเป็นชา กินสด ฯลฯ

นานาสาระ : วันพ่อแห่งชาติ ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันพ่อแห่งชาติ

บทความล่าสุด