โรงเรียนบ้านโพหวาย

หมู่ที่  5  บ้านโพหวาย ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
 จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
โทร. 086-9578241

วิวัฒนาการมนุษย์ เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการทางธรรมชาติ

วิวัฒนาการมนุษย์

วิวัฒนาการมนุษย์ เมื่อวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์มาถึงมนุษย์ยุคปัจจุบัน ปัญหาต่างๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น เพราะเทคโนโลยีของเราพัฒนาไปไกล จนอาจส่งผลต่อการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ได้ ประการที่ 1 เทคโนโลยีทำให้เราทุกคนปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้มากขึ้น ปรากฏว่าบุคคลที่มีสมรรถภาพทางกายค่อนข้างอ่อนแอจะตายในไม่ช้า และไม่สามารถถ่ายทอดคุณสมบัติที่ค่อนข้างอ่อนแอนี้ได้ ฤดูหนาวไม่ใช่ภัยคุกคามที่ต้องกังวลอีกต่อไป

กล่าวได้ว่าการมีอยู่ของวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีทำให้วิวัฒนาการตามธรรมชาติของมนุษย์ก้าวหน้าไปถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และสิ่งแวดล้อมจะไม่เป็นปัจจัยหลักในการตายของมนุษย์อีกต่อไป แน่นอน นี่ยังหมายถึงความสามารถในการปรับตัวโดยรวมของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมจะอ่อนแอลง และสูญเสียเทคโนโลยี ผู้คนจะตายมากขึ้นเพราะปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมไม่ได้

ประการที่ 2 มนุษย์มีความสามารถในการทำให้สิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการอย่างแข็งขันอยู่แล้ว ก่อนอื่น เรามาดูสุนัขเลี้ยงรอบๆ ตัวเรากัน สุนัขที่มีรูปร่างต่างกันเหล่านี้ล้วนแต่เป็นหมาป่าเมื่อ 5,000 ปีก่อน แต่ภายใต้การแทรกแซงของมนุษย์โดยเจตนา ปัจจุบัน มีสุนัขขนาดเท่าฝ่ามือ 100 จิน ใหญ่พอที่จะแยกสืบพันธุ์

นอกจากการผสมพันธุ์โดยเจตนาแล้ว มนุษย์ยังมีเทคโนโลยีการตัดต่อยีนอีกด้วย นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อทำให้ยุงให้กำเนิดเฉพาะยุงตัวผู้ตลอดไป โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ยุงสูญพันธุ์ เทคโนโลยีนี้สามารถใช้กับมนุษย์ได้ด้วย และสามารถตัดต่อลักษณะต่างๆ ได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีตัดต่อยีนยังคงมีปัญหาด้านจริยธรรมอยู่มาก ดังนั้น จึงไม่ได้ใช้ในมนุษย์

วิวัฒนาการมนุษย์

สุดท้ายนี้เทคโนโลยีที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อเราเช่นกันตัวอย่างเช่น หลังจากที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นวิธีการป้อนข้อมูลที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ เด็กแรกเกิดในยุคนี้สามารถเข้าถึงโทรศัพท์มือถือได้ทันทีที่เกิดมา และอาจกล่าวได้ว่า โทรศัพท์มือถือเป็นอวัยวะภายนอกของมนุษย์ยุคใหม่

ด้วยการพัฒนาของเวลา จะมีอุปกรณ์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต และส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเรา เช่น อุปกรณ์ที่สามารถควบคุมด้วยคลื่นสมอง และเครื่องที่สามารถตรวจสอบสัญญาณชีพได้แบบเรียลไทม์ เป็นที่คาดการณ์ได้ว่า อารยธรรมสมัยใหม่ได้ขัดขวางวิวัฒนาการตามธรรมชาติของมนุษย์ และทำให้วิวัฒนาการของเราก้าวเข้าสู่อีกเส้นทางหนึ่ง นั่นคือการเสริมสร้างอุปกรณ์ภายนอก

จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า จริงๆแล้ววิวัฒนาการของมนุษย์มีอยู่ 2 ทาง ทางที่ 1 คือ วิวัฒนาการมนุษย์ ให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เราจะจินตนาการได้ในเวลานี้ ผ่านการตัดต่อยีนหรือการตรวจคัดกรอง และทางที่ 2 คือ การเสริมมนุษย์ด้วยตัวช่วยต่างๆ เช่น อุปกรณ์ และความสามารถของมนุษย์

วิธีที่ 1 คือการตัดต่อยีนเป็นเทคโนโลยีที่อันตรายมาก ก่อนหน้านี้ เคยมีเหตุการณ์การตัดต่อยีนของทารก เซลล์ของตัวอ่อนของทารกแฝด 2 คนได้รับการตัดต่อพันธุกรรม เพื่อให้พวกเขาได้รับภูมิคุ้มกันโรคเอดส์ แต่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า การตัดต่อยีนนี้จะส่งผลร้ายแรงมากกว่านี้หรือไม่ หากมียีนที่สามารถก่อให้เกิดผลร้ายแรงต่อมนุษย์ และยีนนี้จะแพร่กระจายไปพร้อมกับการสืบพันธุ์ ดังนั้น มนุษย์อาจสูญพันธุ์เพราะยีนนี้

ดังนั้น จนกว่าจะมีการกำหนดความปลอดภัยของการตัดต่อยีน เราจึงไม่สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้ วิธีที่ 2 นั้นง่ายมาก โดยใช้อุปกรณ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์วิธีนี้ ปรากฏในผลงานนิยายวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ และกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงนั้นง่ายต่อการจินตนาการ อย่างแรกคือการใช้อุปกรณ์ภายนอกเช่นโทรศัพท์มือถือเพื่อพัฒนาชีวิต

บางคนคิดว่าเนื่องจากเราต้องดูโทรศัพท์มือถือทุกวันจึงเป็นเรื่องยากที่จะหยิบออกไปทางที่ดี ควรฝังโทรศัพท์มือถือเข้าไปในร่างกายของเราโดยตรง ในตอนแรก อาจเป็นไปได้ว่าหน้าจอฝังอยู่ในผิวหนังของเรา และข้อมูลสามารถแสดงบนผิวหนังของเราได้โดยตรง จากนั้นจะมีการเชื่อมต่อโดยตรงของสมองกับข้อมูล โดยที่เราไม่ต้องเห็นด้วยตาด้วยซ้ำ

เนื่องจากร่างกายสามารถฝังโทรศัพท์มือถือได้อยู่แล้ว ทำไมอุปกรณ์อื่นๆ จึงไม่สามารถฝังได้ ทุกคนจึงเริ่มฝังอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น เครื่องเสริมกระดูกที่ช่วยให้กระโดดจากชั้นที่ 10 ได้โดยไม่บาดเจ็บ เครื่องช่วยหายใจในตัวที่ช่วยให้ผู้คนหายใจได้อย่างอิสระบนที่ราบสูงและทะเลลึก

เมื่อมีการฝังอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด มันก็จะพัฒนาเป็นร่างกายที่ไม่มีส่วนดั้งเดิมอื่นใดนอกจากสมอง และการสืบพันธุ์อาจได้รับการปลูกฝังโดยตรงโดยใช้เซลล์สมอง เมื่อถึงเวลานั้น นักวิทยาศาสตร์อาจเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าสมองทำงานอย่างไร และการสร้างสมองไบโอนิคก็ไม่น่าจะมีปัญหา

ดังนั้น สมองจะถูกแทนที่ และจิตสำนึกของมนุษย์ก็จะถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของข้อมูลด้วย ซึ่งสามารถใช้ในการโอนฟรีในเครื่องสำรองได้ จากมุมมองนี้ ในที่สุดมนุษย์จะกลายเป็นหุ่นยนต์ และความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเครื่องจักร และสิ่งมีชีวิตก็คือชิ้นส่วนทั้งหมดสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และมนุษย์อาจไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความตายอีกต่อไป

บทส่งท้าย ในความเป็นจริง จากมุมมองของวิวัฒนาการ เทคโนโลยีของมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการตามธรรมชาติ ในขณะที่เทคโนโลยีทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น แต่ก็เปลี่ยนยีนของเราด้วย แม้ว่าวิวัฒนาการตามธรรมชาติของมนุษย์ในปัจจุบันจะช้าลง แต่มนุษย์ก็ยังมีวิวัฒนาการทางพันธุกรรมในระดับหนึ่ง เช่น นักวิทยาศาสตร์พบว่าความจุสมองของโฮโมซาเปียนตอนปลายของเราเล็กลง

ทั้งนี้เพราะหลังจากปรับตัวเข้ากับชีวิตสมัยใหม่ที่สะดวกสบายแล้ว มนุษย์ก็ไม่จำเป็นต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมในป่าที่ซับซ้อนอีกต่อไป และไม่ต้องล่าสัตว์อย่างเข้มข้นในระยะยาวเพื่อรักษาชีวิต เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำสิ่งเหล่านี้ สมองที่รับผิดชอบด้านนี้เริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆ เป็นผลให้ปริมาณสมองเริ่มลดลง

ปัจจุบันสมองของเราชอบคิดและจดจำมากขึ้น ด้วยวิธีนี้เท่านั้น ที่เราสามารถอยู่รอดได้ในสังคมยุคใหม่ แต่ความสามารถของสมองมนุษย์ในปัจจุบัน อาจใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว เพราะสิ่งที่ก้าวหน้าหลายอย่างต้องใช้เวลาหลาย 10 ปีในการเรียนรู้ของมนุษย์ อายุขัยของมนุษย์ได้กลายเป็นห่วงของการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในอนาคต การพัฒนาของมนุษย์อาจต้องฝ่าพันธนาการนี้ไปให้ไกลกว่านี้ ไม่ว่าจะโดยการพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ของมนุษย์ หรือโดยการเพิ่มอายุขัยของมนุษย์

นานาสาระ : ออสตีโอคอนโดรสิส ทำไมโรคออสตีโอคอนโดรสิสจึงปรากฏขึ้น

บทความล่าสุด