โรงเรียนบ้านโพหวาย

หมู่ที่  5  บ้านโพหวาย ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
 จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
โทร. 086-9578241

อาหารสัตว์กินเนื้อ การดูแลสุขภาพแบบฉบับของคนทานเนื้อลดน้ำหนัก

อาหารสัตว์กินเนื้อ

อาหารสัตว์กินเนื้อ เป็นหนึ่งในเทรนด์การรับประทานอาหารที่หลายคนสนใจ เชื่อกันว่าแค่กินเนื้อสัตว์ก็ช่วยลดน้ำหนักได้ ไม่ควรรับประทานผักหรือผลไม้ร่วมกัน บทความนี้ขอเชิญคุณมาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารสัตว์กินเนื้อ อาหารสัตว์กินเนื้อจำกัดอยู่ที่ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อ ปลา ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนมเท่านั้น เชื่อว่าในอดีตคนเรามักจะกินเนื้อ ปลา และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆเพิ่มมากขึ้น

อาหารสัตว์กินเนื้อแตกต่างจากอาหารอื่นๆ เช่น อาหารคีโตเจนิกที่จำกัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรต แต่การกินแบบนี้จะไม่มีคาร์โบไฮเดรตเลยในมื้ออาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช เมล็ดพืช รวมถึงชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่ทำจากพืช ผักและผลไม้ แต่กินเนื้อสัตว์ที่มีไขมันเป็นหลักแทน เติมน้ำหรือน้ำซุปกระดูกเพื่อเป็นพลังงานในแต่ละวัน โดยทั่วไปแล้ว ผู้บริโภคสามารถกินได้มากเท่าที่ต้องการ เนื่องจากหลักการกินอาหารของสัตว์กินเนื้อไม่ได้จำกัดปริมาณแคลอรี จำนวนหน่วยบริโภคหรือปริมาณอาหารที่ควรรับประทานต่อครั้ง จำนวนมื้ออาหารหรือจำนวนของว่างที่เรารับประทานออกไปในแต่ละวัน

อาหารสัตว์กินเนื้อและการลดน้ำหนัก หลายคนอาจสงสัยว่าอาหารสัตว์กินเนื้อมีผลต่อการลดน้ำหนักอย่างไร โปรตีนนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการลดน้ำหนักให้สำเร็จ ด้วยโปรตีนทำให้เราไม่รู้สึกหิวบ่อยและลดความอยากอาหารลง ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแคลอรีได้น้อยลง นอกจากนี้โปรตีนยังช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้ดีขึ้น การกินโปรตีนมากๆอาจช่วยลดน้ำหนักได้

อาหารสัตว์กินเนื้อจะกินคาร์โบไฮเดรตน้อยลง สำหรับการเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายนำไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน แต่ผู้บริโภคอาจเข้าสู่ภาวะคีโตซิส ซึ่งร่างกายจะเผาผลาญไขมันเป็นคีโตนซึ่งใช้เป็นแหล่งพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรต ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้น้ำหนักลดลงได้ เบื่ออาหาร มีกลิ่นปาก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หรืออ่อนแรง นอกจากการลดน้ำหนักแล้ว อาหารสัตว์กินเนื้อยังมีประโยชน์ต่อระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย เช่นเดียวกับสภาวะทางอารมณ์หรือด้านอื่นๆของสุขภาพ แต่ยังไม่มีงานวิจัยเพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงประโยชน์เหล่านี้ ดังนั้นผู้บริโภคควรรอการวิจัยเพิ่มเติมในอนาคต

อาหารสัตว์กินเนื้อ

ความเสี่ยงจากอาหารสัตว์กินเนื้อ ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อจำกัดหลักของการทานเนื้อสัตว์ล้วนคือการที่ร่างกายอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ได้รับไม่เพียงพอ หรือได้รับสารอาหารบางชนิดมากเกินไปในหมู่พวกเขา ผู้บริโภคอาจประสบปัญหาดังต่อไปนี้ ขาดไฟเบอร์ ใยอาหารและไฟเบอร์เป็นสารอาหารที่พบในผักและผลไม้ส่วนใหญ่ มีความสำคัญต่อระบบย่อยอาหารและลำไส้เป็นอย่างมาก อาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ยังสามารถลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ และเบาหวาน

ดังนั้นผู้บริโภคที่รับประทานแต่เนื้อสัตว์อาจขาดสารอาหารนี้จนส่งผลต่อระบบย่อยอาหารหรือลำไส้ได้ และมีปัญหาท้องผูกและการรับประทานเนื้อแดงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคหลอดเลือดหัวใจและเบาหวาน ไขมันและคอเลสเตอรอลสูง เนื้อสัตว์บางชนิดอาจมีไขมันอิ่มตัวสูง โดยเฉพาะเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนยและชีส หากรับประทานในปริมาณมากอาจทำให้ระดับไขมันไม่ดีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจและหลอดเลือด

โซเดียมสูง ในกรณีของการรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น เบคอนและแฮม อาหารเหล่านี้ผ่านกระบวนการและปรุงรส ส่งผลให้ผู้บริโภคมีระดับโซเดียมค่อนข้างสูง ดังนั้น ผู้บริโภคจึงอาจเสี่ยงต่อปัญหาความดันโลหิต โรคไต มะเร็ง หรือโรคเรื้อรังอื่นๆได้ โดยเฉพาะเมื่อบริโภคในปริมาณมากหรือได้รับเป็นเวลานาน

กรดยูริกในเลือดสูง ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงเป็นปัญหาอีกประการหนึ่งที่ผู้บริโภค อาหารสัตว์กินเนื้อ อาจประสบ เนื่องจากเนื้อแดงและอาหารทะเลมีพิวรีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายผลิตกรดยูริกระหว่างการย่อยอาหาร และหากระดับกรดยูริกสูงก็อาจเสี่ยงเป็นโรคเก๊าท์ได้ นอกจากนี้ อาหารสัตว์กินเนื้ออาจไม่เหมาะสำหรับบางคน

ผู้ที่จำกัดปริมาณโปรตีน เช่น ผู้ที่เป็นโรคไต ผู้ที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลในเลือด เด็ก สตรีมีครรภ์ ให้นมบุตร และบุคคลอื่นๆ ที่ต้องการสารอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน สุดท้ายผู้ที่สนใจอาหารสัตว์กินเนื้อ ควรปรึกษาข้อดีข้อเสียกับแพทย์หรือนักโภชนาการ ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงอาหารเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ

รู้จักกับประโยชน์ของมัทฉะ ชาในดวงใจสำหรับใครหลายคน มัทฉะเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และมักถูกนำไปใส่ในของหวานและเครื่องดื่มมากมาย นอกจากรสชาติที่ถูกต้องหรือความสดชื่นหลังจากรับประทานหรือดื่มแล้ว มัทฉะยังให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย มัทฉะเป็นชาที่ทำโดยการนึ่ง ตากแห้ง และบดใบชาให้เป็นผง

จากนั้นผสมผงชาทั้งหมดลงในน้ำร้อน การดื่มมัทฉะก็เหมือนกับการรับประทานใบชาทั้งใบ ในขณะที่การชงชาแบบดั้งเดิมมักจะเกี่ยวข้องกับการต้มใบชาในน้ำร้อนแล้วดื่มเฉพาะใบชา ดังนั้นการดื่มหรือบริโภคมัทฉะจึงมีประโยชน์ทางโภชนาการมากกว่าการดื่มชาประเภทอื่น เรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของชามัทฉะ ชาในใจใครหลายคน ประโยชน์ของการดื่มชามัทฉะ นอกจากรสชาติที่ถูกใจใครหลายคนแล้ว มัทฉะยังมีสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายชนิด เช่น

1.ลดความเสี่ยงต่อโรคหรือภาวะบางอย่าง มัทฉะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด โดยเฉพาะคาเทชิน Catechins ซึ่งเป็นสารที่อาจช่วยลดความดันโลหิตได้ ระดับคอเลสเตอรอลรวม ระดับไขมันไม่ดี LDL การอักเสบในร่างกาย และความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าการบริโภคมัทฉะอาจลดความเสี่ยงของโรคหรืออาการบางอย่าง เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง COPD กล้ามเนื้อหัวใจตาย และโรคหลอดเลือดสมอง และยังอาจช่วยควบคุมระดับเอนไซม์ตับในผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์

2.ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว การดื่มชามัทฉะแบบเครื่องดื่มหรืออาหารสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณตื่นตัวอยู่เสมอ เนื่องจากใบชาที่ใช้ทำผงมัทฉะมีคาเฟอีนค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมี L-theanine ซึ่งอาจช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย การควบคุมความเครียดช่วยคลายความเหนื่อยล้าที่อาจเกิดขึ้นหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

การศึกษาพบว่าการรับประทาน L-theanine และคาเฟอีนที่พอเหมาะ ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวทำงานได้ดีขึ้น ควรควบคุมการบริโภคหรือการบริโภคมัทฉะอย่างเหมาะสม โดยจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 2 ดริ้งค์ 474 ​​มล. ต่อวัน และหลีกเลี่ยงการดื่มมัทฉะใกล้เวลาเข้านอนหรือหลังเข้านอนประมาณ 6 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้นอนไม่หลับได้

3.ดีต่อช่องปาก ชาเขียวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระคาเทชินที่เรียกว่า EGCG หรืออีพิกัลโลคาเทชินแกลเลต Epigallocatechin Gallate ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก เพราะสารนี้จะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดคราบพลัคบนฟันของคุณและนำไปสู่ปัญหาฟันผุได้

นอกจากนี้ EGCG ยังส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากอื่นๆ เช่น ลดการสะสมของสารประกอบกำมะถันในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นปาก และอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคปริทันต์อักเสบ โรคปริทันต์อักเสบ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพจากการบริโภคมัทฉะ แต่ควรซื้อที่สะอาด เชื่อถือได้ บริโภคปานกลาง และควรตรวจสอบน้ำตาลซึ่งมักปรุงแต่งด้วยมัทฉะเพื่อเพิ่มในอาหารเรียกน้ำย่อย

นอกจากนี้เด็กไม่ควรรับประทานค่ะ เนื่องจากใบชาที่ใช้ทำผงมัทฉะอาจมีสารก่อมลพิษหรือสารอาหารบางชนิดมากเกินไป ทำให้คลื่นไส้ หรือเป็นพิษต่อตับและไตได้ การมีสุขภาพที่ดียังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณานอกเหนือจากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ เช่น การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ทำให้ร่างกายรับสารอาหารที่ครบถ้วน การพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น

นานาสาระ : การทำช็อกโกแลต ให้ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมครัวในการจะทำช็อกโกแลต

บทความล่าสุด